ปวดหลังเป็นประจำ
มีวิธีการรักษาอย่างไรให้หาย หรือมีวิธีบรรเทาแบบใดบ้าง ?
ปัญหาอาการปวดหลังไม่ใช่เรื่องสนุก
โดยเฉพาะคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายทั้งหลาย หากมีอาการปวดหรือเจ็บแปล็บ ๆ
อย่างนิ่งเฉย บางครั้งอาจจะเป็นมากกว่าที่คุณคิด รู้ตัวก่อน รักษาไว
เป็นผลดีต่อตัวคุณเอง
อาการปวดหลังเกิดจากอะไร ?
สำหรับสาเหตุของการปวดหลังที่มีหลายเหตุปัจจัย
ที่เกิดขึ้นได้หลายอย่างเช่น ปัญหาของกระดูกสันหลัง ,
เกิดจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ , การยกของที่มีน้ำหนักมากหรือท่านั่งผิดวิธี
,ภาวะอารมณ์ความเครียด , การตั้งครรภ์ , เป็นโรคข้อเสื่อม
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการปวด และเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
ไม่จำกัด
สำหรับอาการปวดที่มีมาจากหลายสาเหตุบางอย่างอาจจะไม่ได้เกิดอาการขึ้นมาเฉียบพลัน อาจจะเกิดการสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย
ๆ ส่วนมากจะมาจากพฤติกรรมส่วนตัวของแต่ละคนที่อาจจะสร้างปัญหาให้ไม่รู้ตัว
อาการปวดหลังที่มักพบได้บ่อยมากสุดจะมาจากการยกสิ่งของผิดท่าและการนั่งในท่าที่ผิดเป็นเวลานาน
ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่หลายคนคิดว่าไม่เป็นไร เป็นเดี๋ยวเดียวก็หาย
ทั้งที่ความจริงเป็นสิ่งที่อันตรายต่อตัวเองอย่างมาก หากสะสมเป็นเวลานาน ๆ
อาจจะสร้างความเสียหายต่อสุขภาพของตัวคุณเองอย่างมาก
เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะสายและแก้ไม่หายขาดก็เป็นได้
วิธีการบรรเทาอาการ
สำหรับใครที่มีอาการปวดหลังแต่ยังไม่อยากจะไปพบแพทย์
คุณสามารถดูแลบรรเทาอาการเบื้องต้นก่อนได้ หากไม่ดีค่อยไปพบแพทย์อีกครั้ง
รวมถึงการทานยา บางคนไม่อยากทานยาอยากจะทดลองทำก่อนได้
สำหรับใครที่ไม่ได้มีอาการปวดมากหรือมีอาการรุนแรงถึงขั้นเดินไม่ได้หรือไม่สามารถนั่งเป็นเวลานาน
ๆ ก็สามารถเลือกทำตามด้วยวิธีเหล่านี้ได้ไม่ยากคือ
- 1. ใช้วิธีการประคบร้อนเพื่อบรรเทาอาการปวดหลัง ควรเลือกประคบเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว เลือกไหลเวียนดีขึ้น ไม่แนะนำให้ใช้การประคบเย็น เพราะจะใช้ในการลดปวดบวมจากอุบัติเหตุเช่นหัวโน
- 2. รัดเอว พยุงหลัง จะช่วยให้ผ่อนแรงของกล้ามเนื้อ เพื่อให้ทำงานได้น้อยลง เวลารัดต้องไม่รัดแน่นหรือเป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกัน เมื่อมีอาการจึงสามรารถใช้ได้
- 3. นวดเพื่อผ่อนคลาย เป็นวิธีที่จะช่วยสร้างความผ่อนคลายได้อย่างมาก และไม่ควรนวดในท่าที่บิดตัวเพราะจะยิ่งทำให้เกิดอาการที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
- 4. แช่น้ำอุ่น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถผ่อนคลายได้มาก และเป็นการพักผ่อนไปในตัว ไม่ว่าจะเป็นน้ำอุ่นในอ่างที่บ้านหรือจะเป็นบ่อน้ำพุร้อนตามแหล่งธรรมชาติก็จะมีประโยชน์มากกว่าหากคุณมีเวลามากพอ
- 5. เลือกใช้ยาทาบรรเทาอาการปวด โดยใช้ยาที่เป็นสูตรร้อน จะช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดี แต่อาจจะไม่เหมาะกับการทาในที่ทำงาน ควรเลือกใช้ที่บ้านจะเหมาะสุดเพราะยาค่อนข้างมีกลิ่น
วิธีเลี่ยงไม่ให้ปวดหลัง
การเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อหลัง
เพื่อลดปัญหาของการปวดหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ
หากใครที่ไม่มีปัญหาเรื่องอาการปวดจำเป็นต้องรู้เอาไว้ แต่ถ้าใครกำลังประสบปัญหาอยู่ในตอนนี้สำคัญที่สุดและต้องเลี่ยง
ลดพฤติกรรมเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่เป็นการเพิ่มให้อาการรุนแรงมากขึ้น
หรือซ้ำเติมให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่น ๆ ตามมา โดยเฉพาะเรื่องท่านั่ง
หลายคนที่มักจะมีปัญหาเรื่องท่านั่งที่เป็นหลังกุ้งตัวงอ หารู้ไม่ว่าท่านั่งเหล่านี้จะทำให้มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลัง
ควรเปลี่ยนนั่งหลังตรง ปรับเก้าอี้ให้ได้ระดับ
เช่นเดียวกับการยกของที่มีน้ำหนักและยกในท่าที่ผิด
ซึ่งเป็นหลายคนมักจะคิดว่าไม่สำคัญเพราะเวลาแป๊บเดียว
และท่ายกจะมีท่าที่กำหนดไว้ชัดเจน จะต้องใช้ให้ทุกครั้ง
เรื่องท่านอนคว่ำก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง
ไม่ว่าจะนอนทำงานนอนอ่านหนังสือ จะเป็นเหตุให้กระดูกสันหลังแอ่น
ดังนั้นควรจัดท่านอนให้ถูกต้องควรเลือกนอนหงายหนุนหมอนไม่สูง
จะลดอาการเสี่ยงปวดหลังได้ดี
และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทุกคนจะต้องเลี่ยงมากที่สุดคือเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะความอ้วนไม่ได้มีส่วนดี แถมพ่วงโรคต่าง ๆ มาให้มากมาย
การควบคุมน้ำหนัก
พร้อมออกกำลังกายจะช่วยให้ไม่มีปัญหาเรื่องการปวดและยังได้ร่างกายที่มีความแข็งแรงเกิดขึ้นกับทุกคน
รวมถึงเรื่องอบายมุขต่าง ๆ เลี่ยงให้มากที่สุด
โดยเฉพาะเรื่องการสูบบุหรี่ที่เป็นเหตุให้หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมมากขึ้น
ปัญหาเรื่องอาหารปวดหลังไม่ใช่เรื่องเล่น
ๆ เมื่อมีอาการควรรีบแก้ไขเร่งด่วน
เชื่อว่าทุกคนที่เคยเป็นหรือเคยเห็นอาการเหล่านี้จะญาติพี่น้องหรือเพื่อน ๆ มาแล้ว
เพราะอาการปวดบางคนที่ไม่รุนแรงก็ไม่แสดงอาการเท่าไหร่ แต่ถ้ามีอาการมาก ๆ จะทำให้เสียบุคลิกในที่สุด
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิด ซึ่งเสียสุขภาพ
หากใครที่มีอาการขั้นรุนแรงถึงขั้นผ่าตัดก็จะไม่สามารถกลับคืนมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเดิม
แน่นอน ซึ่งเป็นโรคที่ไม่เหมือนทั่วไป
หากใครที่ไม่อยากใช้ชีวิตหรือต้องเสี่ยงกับอาการปวดหลัง
จำเป็นต้องเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่อาการปวดได้ ดังนั้นไม่ว่าจะนั่งหรือนอน
การเดินต่าง ๆ จะต้องอยู่ในแบบมาตรฐาน เพื่อไม่ให้เกิดอาการปวดสะสมขึ้นมาได้