บทความที่ได้รับความนิยม

วิ่งเบิร์นอาหารที่กินไปในแต่ละมื้อ ควรวิ่งนานแค่ไหน ?



วิ่งเบิร์นอาหารที่กินไปในแต่ละมื้อ ควรวิ่งนานแค่ไหน ?

                วิ่งเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกจำนวนมากรวมถึงการได้รับกระแสปลุกให้ตื่นตัวมากขึ้นจากโครงการสนับสนุนจากรัฐ อีกทั้งยังเป็นการออกำลังกายที่ประหยัดเงินประโยชน์สูงสุดอย่างเห็นได้ชัด

การวิ่ง อย่างไรให้เบิร์น?

                การวิ่ง อย่างไรให้เบิร์น วิ่งอย่างไรให้ได้ผลเพราะไม่ว่าว่าจะวิ่งแบบเอาเป็นเอาตายแล้วจะได้หุ่นที่ดีกลับมา ทำให้การวิ่งที่ดีต้องมีทริครู้จักเทคนิคในการวิ่งเพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด จากการเบิร์นไขมันหรือการเผาผลาญไขมันสิ่งที่หลายคนมีความต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป หากเราทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ที่เราต้องหายใจเร็ว ๆ แรง ๆ จะมีส่วนช่วยให้อัตราการเบิร์นไขมันได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นการทำขั้นตอนนี้มีความสำคัญจำเป็นต้องมีความรู้เพื่อให้การออกแรงของเราไม่เสียประโยชน์ไม่สูญเปล่า การวิ่งช้าก็มีส่วนช่วยให้เราสามารถเบิร์นไขมันได้ดีเช่นกันจึงไม่จำเป็นต้องออกแรงให้มาก สังเกตได้ง่าย ๆ หากเราวิ่งแล้วเราไม่สามารถพูดคุยกับคนข้าง ๆ ได้นั่นแสดงว่าเราวิ่งเร็วเกินไปควรลดระดับความเร็ว ควรชะลอความเร็วลงให้อยู่ในระดับที่วิ่งไปคุยไปได้

การวิ่งตอนท้องว่าง

                สำหรับใครที่มีความฟิตมากพอที่จะการวิ่งตอนท้องว่างซึ่งจะช่วยให้มีระบบการเผาผลาญได้ดีที่สุดเช่น
·        การเลือกวิ่งตอนเช้าตอนท้องว่าง สำหรับระยะเวลาการวิ่งควรอยู่ที่ 20-40 นาที ซึ่งไม่ควรวิ่งนานกว่านี้อาจได้รับผลเสียมากกว่าผลดีที่คาดเอาไว้
·        สำหรับมือใหม่ จะมีอาการเวียนหัวร่วมด้วย ควรหมั่นสังเกตร่างกายให้ดี รวมถึงความเปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะได้รับผลดีแต่ก็ต้องระวังให้มาก
·        ควรมีเครื่องมีหรือถ้ามีอุปกรณ์เสริม (Smart Devices) อัตราการเต้นของหัวใจ (Maximum Heart Rate) ควรอยู่ประมาณ 60-70% ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ควรมีของนักวิ่ง หากต้องการวิ่งอย่างจริงจัง
·        หากต้องการเบิร์นไขมันในช่วงเวลาไหนควรเลือกวิ่งอย่างถูกหลักวิธีเพราะการวิ่งแบบเอาเป็นเอาตายไม่ได้ช่วยให้เราเบิร์นไขมันได้เต็มที่ตามความต้องการของเรา

อยากเบิร์นไขมันให้ได้ผลเร็วขึ้นต้องทำอย่างไร

                ถ้าคุณสามารถที่จะวิ่งได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ในระยะทาง 3-5 กม. หากต้องการที่จะเบิร์นไขมันให้เร็วขึ้นและจะต้องเร่งความเร็วให้เราไม่เหนื่อยเกินไปหรือเน้นที่เวลาเท่าเดิมแต่เพิ่มที่ระยะทางให้ไกลมากขึ้น ตัวอย่างเช่นผู้ที่เคยวิ่ง 30 นาที สามารถวิ่งได้ 1 กม. ใช้เวลา 7.5 นาที ก็ให้วิ่งเร็วขึ้นเป็น 6 นาที หรือจะเป็นการเพิ่มระยะทางแต่ไม่ต้องเพิ่มความเร็ว เพื่อต้องการเผาผลาญไขมันให้ได้มากขึ้นและมีกำลังใจที่จะลดน้ำหนักได้อีกด้วย รวมถึงการวิ่งก่อนรับประทานอาหารเพราะว่าร่างกายจะดึงเอาไขมันสะสมออกมาเผาผลาญให้เป็นพลังงานก่อนซึ่งจะช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้อีกต่างหาก ย่อมดีกว่าการไปวิ่งหลังจากการทานอาหารเพราะบางครั้งการทานอาหารมาวิ่งอาจเป็นอันตราย และต้องรออย่างน้อย 2 ชม. จึงจะวิ่งได้หลังจากการทานอาหารมาแล้วซึ่งเป็นวิธีที่ไม่แนะนำอย่างมากเพราะมีความเสี่ยงมากกว่าผลดี

เมนูอาหารที่ต้องใช้เวลาเบิร์นต่างกัน

                สำหรับการเลือกทานอาหารแต่ละเมนูอาจมีส่วนผสมต่างกันและช่วงเวลาของการเบิร์นเพื่อสลายไขมันนั้นมีความต่างกันตามส่วนประกอบอาหารนั้น ๆ เช่น
  • ·        ข้าวมันไก่ ให้พลังงาน 596 กิโลแคลอรี โดยที่คุณต้องวิ่งประมาณ 9.62 กิโลเมตรจึงจะเผาผลาญได้หมด
  • ·        ข้าวขาหมู ให้พลังงาน 690 กิโลแคลอรี โดยที่คุณต้องวิ่งประมาณ 11 กิโลเมตรจึงจะเผาผลาญได้หมด
  • ·        ข้าวผัดหมูใส่ไข่ ให้พลังงาน 557 กิโลแคลอรี โดยที่คุณต้องวิ่งประมาณ 9 กิโลเมตรจึงจะเผาผลาญได้หมด
  • ·        ข้าวผัดกะเพราไก่ไข่ดาว ให้พลังงาน 630 กิโลแคลอรี โดยที่คุณต้องวิ่งประมาณ 10 กิโลเมตรจึงจะเผาผลาญได้หมด
  • ·        แฮมเบอร์เกอร์ชีสไก่ ให้พลังงาน 280 กิโลแคลอรี โดยที่คุณต้องวิ่งประมาณ 4.5 กิโลเมตรจึงจะเผาผลาญได้หมด

การวิ่งเบิร์นอาหารที่เราทานไปในแต่ละมื้ออาจมีความต่างกันและควรเลือกช่วงเวลาการออกกำลังกายให้ถูกต้องรวมถึงการให้ความสำคัญของการเลือกทานอาหารเพื่อความเหมาะต่อร่างกายและใช้เวลาของการเบิร์นไม่นานมากเท่าไหร่


หวย หวยออนไลน์ Jetsadabet